ชีวิตนักดนตรีกลางคืน
ชีวิตนักดนตรีกลางคืน
นักดนตรีกลางคืนเป็นอาชีพที่เหมือนกับอาชีพอื่นๆเพียงแค่เวลาในการทำงาน สถานที่ แตกต่างกันออกไป หลายๆคนอาจจะมองว่าอาชีพเล่นดนตรีกลางคืนเป็นอาชีพสบายๆ ง่ายๆ แค่ไปขึ้นร้องเพลงให้คนที่มาดื่ม มาสังสรรค์ฟังไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงินแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่หลายๆคนมองไว้เลย จนเรียกได้ว่าถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้สู้ไปทำอย่างอื่นซะดีกว่า
หลายๆคนที่ชอบการเล่นดนตรีก็มีความฝันกันทุกคน อยากตั้งวง อยากทำเพลง อยากรวมกลุ่มกับเพื่อน เขียนเพลงให้คนอื่นฟัง และอยากที่จะไปแสดงสดๆบนเวทีให้ผู้คนมากมายฟังกัน แต่พอได้ทำเข้าจริงแล้วก็ได้รู้ว่ามันไม่ง่ายเสียเลยเพราะมีปัญหาต่างๆ มากมายตามมาจนเรียกได้ว่า โถ มันขนาดนี้เลยหรอ เช่น ต้องเล่นเพลงให้ได้เยอะๆ ต้องแกะเพลงมากมาย ต้องเรียนรู้เพลงดังๆ เพลงที่กำลังมาแรง เพลงตลาด เพื่อสนองความต้องการของคนที่มาที่ร้านให้ได้ บางคนก็ขอเพลงผิดสถานที่ เช่นเราไปเล่นร้านที่เป็นแนวเพื่อชีวิต แต่มาขอเพลงสากล อันนี้ก็ทำให้ติดสตั้นไปเหมือนกัน อย่างน้อยๆลูกค้าก็ต้องวางตัวเป็นบ้างว่าสถานที่แบบนี้ควรเลือกเพลงอย่างไร ไหนจะอุปกรณ์เครื่องเสียง สถานที่ไม่พร้อม แถมยังโดนหักหัวคิว โดนเอาเปรียบ เล่นชั่วโมงนึงได้แค่ 300-400 แถมบางครั้งผู้คนส่วนใหญ่คือมานั่งกินข้าวและนั่งคุยกัน กินเหล้า วนๆ อยู่แค่นี้ แล้วก็เดินมาขอเพลง ขอแล้วก็กลับไปกินต่อ ไม่ได้ฟังเพลง ทั้งที่เป็นเพลงที่ตัวเองขอมา ปรบมือต้นเพลง แล้วก็หายไปเลย ท้ายเพลงคุยกับเพื่อน ก็เป็นวัฒนธรรมประมาณนี้นี่ขนาดเราเล่นเพลงดัง คนก็ไม่สนใจ ฉะนั้น การที่เราคาดหวังว่าจะเล่นเพลงตัวเองออกไป ก็เคยทำ แต่รู้สึกว่าคนเขาไม่ฟัง ซึ่งมันน่าเสียใจตรงนี้ ที่ทำไมคนถึงไม่ฟัง ฉะนั้น เราก็ต้องไปหาร้านที่เขาอยากจะฟังดนตรีจริงๆ ร้านที่คนโฟกัสดนตรี ซึ่งประเทศไทยมีไม่กี่ร้านหรอก มีน้อยมาก ซึ่งก็เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
เราจึงต้องรับมือกับสภาพปัญหาแบบนี้ได้ด้วยความเป็นมืออาชีพ หาจุดสนใจของเรา หาจุดเด่น ฝึกซ้อมเยอะๆ ทำซ้ำๆ แต่แน่นอนว่านักดนตรีหลายๆคนอาจจะเบื่อกับเพลงที่มันซ้ำๆเดิมๆ เพลงตลาด แต่มันก็ไม่ผิดที่คนขอเพลงจะขอเพลงแนวนี้บ่อยๆ เพราะส่วนใหญ่เราจะเสพแต่สิ่งที่อยู่ในกระแส พอเราออกนอกกระแสอยากจะปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติม คนอื่นก็จะมองเราเหมือนกับเป็นตัวประหลาดเพียงแค่เราไม่ได้อยู่ในกระแส ฉะนั้นเราต้องรับมือสภาพแบบนี้ได้ด้วยความเป็นมืออาชีพคำว่านักดนตรี มันมีอะไรมากกว่าการเล่นดนตรี ทั้งเรื่องการปฎิสัมพันธ์กับคน การดูแลลูกค้า การทำให้ผู้ประกอบการและลูกค้ามีความสุข หรือการพัฒนาฝีมือตัวเอง การสร้างสรรค์ผลงาน ในวงการนักดนตรีกลางคืน หรือศิลปินที่เคยผ่านการทำงานดนตรี อาจจะไม่รู้จักกันแบบตัวต่อตัว แต่จะรู้จักในลักษณะเพื่อนของเพื่อน ซึ่งมันจะโยงกันเป็นเครือข่ายแล้วก็จะเกาะอย่างเหนียวแน่น คือถ้าใครเคยใช้งานใครอยู่ ก็จะเรียกแต่คนเดิมวนไปวนมา เพราะมั่นใจว่าแต่ละคนสามารถทำงานด้วยกันได้ ถ้าเพื่อนร่วมงานเรามีความเป็นมืออาชีพ ยังไงเราก็ต้องเลือกเขาเป็นอันดับแรก เลือกระเบียบวินัย ความเป็นมืออาชีพ คือมีแค่นี้จริงๆ แล้วที่เหลือเราก็จะปรับเปลี่ยนตอนทำงานด้วยกันได้ แต่ถ้าเราเพิ่งเข้าวงการมา เราวางตัวไม่เป็น มันก็อาจจะเป็นปัญหา การเติบโตมันจะช้าลง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น